简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:1-2-3 Pullbacks เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ช่วยให้เราสามารถเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ชัดเจนหรือแข็งแรง โดยอาศัยการสังเกตพฤติกรรมราคาที่มักจะพักตัว 3 วัน
เคยอยากเข้าเทรดแต่กลัวพลาดไหมครับ? เพราะกราฟราคาพุ่งขึ้นหรือดิ่งลงแรง ๆ ในบทความนี้แอดเหยี่ยวจะมาแนะนำกลยุทธ์ที่เรียกว่า “1-2-3 Pullbacks” ที่จะช่วยให้นักเทรดเก็บกำไรได้ แม้ในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งแบบนั้น ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย
1-2-3 Pullbacks คืออะไร?
1-2-3 Pullbacks เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ช่วยให้เราสามารถเข้าเทรดได้อย่างมั่นใจในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ชัดเจนหรือแข็งแรง โดยอาศัยการสังเกตพฤติกรรมราคาที่มักจะพักตัว 3 วัน ก่อนที่จะเคลื่อนตัวต่อไปในทิศทางเดิม ชื่อ “1-2-3” มาจากการนับแท่งเทียนที่เกิดการย่อตัว (หรือรีบาวด์) เป็นจำนวน 3 แท่ง
ตัวอย่าง: ในแนวโน้มขาขึ้น
1 = แท่งแรกที่ราคาปรับตัวลดลง
2 = แท่งที่สองราคาลดลงต่อ
3 = แท่งที่สามราคาลดลงเล็กน้อยหรือคงที่
หลังจากนั้น เราจะเข้าซื้อเมื่อราคาแท่งเทียนปรับตัวขึ้นเหนือ High ของแท่งที่ 3
วิธีใช้กลยุทธ์ 1-2-3 Pullbacks ในการเทรด Forex
1-2-3 Pullbacks สำหรับการซื้อ (Buy/Long)
ขอบคุณรูปจาก forexthai.in.th
ตัวอย่างกราฟ USD/EUR
1-2-3 Pullbacks สำหรับการขาย (Sell/Short)
ข้อดีของกลยุทธ์
ข้อควรระวัง
สรุป
1-2-3 Pullbacks คือ เทคนิคที่ใช้ร่วมกับการตั้งค่าอินดิเคเตอร์ ADX เพื่อวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวในตลาด Forex โดย ADX จะช่วยวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มการซื้อ-ขาย จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อช่วยคาดการณ์ความเป็นไปได้ในอนาคต แม้กลยุทธ์นี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก (เนื่องจากตลาดอาจย่อตัวเพียง 1-2 วัน) แต่เมื่อเกิดสัญญาณขึ้น มักให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
**บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษากลยุทธ์ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง**
ขอบคุณข้อมูลจาก forexthai.in.th
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
XM
GO Markets
AvaTrade
ATFX
Saxo
KVB
XM
GO Markets
AvaTrade
ATFX
Saxo
KVB
XM
GO Markets
AvaTrade
ATFX
Saxo
KVB
XM
GO Markets
AvaTrade
ATFX
Saxo
KVB