简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สายเทรดต้องอ่าน 5 ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้ !
รายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์สำหรับเดือนพฤศจิกายนจะเป็นไฮไลท์หลักของสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า การแถลงของประธานเฟด เจอโรม เพาเวลล์ ในช่วงกลางสัปดาห์จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนจะได้รับความสนใจเช่นเดียวกับข้อมูล PMI ของจีนท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ที่นั่น นี่คือ 5 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์การลงทุนของคุณ
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารดาวน์โหลดเลย :
https://www.wikifx.com/th/download.html
1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร : ความคาดหวังที่ว่าเฟดอาจชะลอการ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เชิงรุกในเร็ว ๆ นี้ ได้รับแรงหนุนจากของเฟดในสัปดาห์ที่แล้วจากการประชุมในเดือนพฤศจิกายน รายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์ประจำเดือนพฤศจิกายนจะทดสอบความคาดหวังเหล่านั้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีตำแหน่งงานใหม่เพิ่ม 200,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 รายงานตำแหน่งงานยังคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่าการเติบโตใน ค่าแรงเฉลี่ยรายชั่วโมง อยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะคงที่เหนือระดับต่ำสุดในรอบ 5 ทศวรรษที่ 3.7%. นี่จะเป็นรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรฉบับสุดท้ายก่อนการประชุมรอบสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคมของเฟด แต่นักลงทุนมีเหตุผลที่ต้องระมัดระวัง รายงานการจ้างงาน 5 ใน 6 ฉบับล่าสุดออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และค่าที่แข็งแกร่งอีกครั้งอาจสร้างปัญหาให้กับหุ้นสหรัฐฯ
2. การแถลงจากเฟด : ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะหารือเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจระหว่างการปรากฏตัวที่ Brookings Institution ในวันพุธ แม้ว่าพาวเวลล์ระบุว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงในเดือนหน้า แต่เขายังกล่าวด้วยว่าในที่สุดแล้วอัตราดอกเบี้ยอาจต้องสูงกว่าที่คาดในปีหน้า ในขณะเดียวกัน ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เจมส์ บูลลาร์ด และประธานเฟดสาขานิวยอร์ก John Williams มีกำหนดจะปรากฏตัวในวันจันทร์นี้ ปฏิทินเศรษฐกิจยังเผย ISM ภาคการผลิต PMI และมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดโปรดปราน - ดัชนีราคา PCE หลัก ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี รายงานอื่น ๆ ในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ การจ้างานนอกภาคการเกษตรจาก ADP, ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภค
3. หุ้นค้าปลีก : เมื่อวอลล์สตรีทกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวของผู้ค้าปลีกที่ดำเนินกิจการในช่วงเทศกาลจับจ่ายซื้อของในวันหยุด รวมถึงความเคลื่อนไหวต่อไปของเฟด ยอดขายในวัน Black Friday เริ่มดำเนินไปท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ผู้ค้าปลีกกำลังจัดโปรโมชั่นส่วนลดยกใหญ่ ทั้งทางออนไลน์และหน้าร้านค้า ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรในไตรมาสที่สี่ การใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้น 2.3% สู่ระดับ 9.12 พันล้านดอลลาร์ในวัน Black Friday ตามรายงานของ Adobe Analytics ในวันเสาร์ แต่เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นนั้นต่ำกว่าอัตรารายปี ของอัตราเงินเฟ้อซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 7.7% หุ้นค้าปลีกของสหรัฐได้กลายเป็นเครื่องวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเมื่ออัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น จนถึงปีนี้ ดัชนีค้าปลีก S&P 500 ลดลงกว่า 30% เล็กน้อย ในขณะที่ S&P 500 ลดลง 15%
4. เงินเฟ้อของฝั่งยุโรป : แม้ว่าจะมีสัญญาณเบื้องต้นว่าอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ อาจถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่คาดว่าข้อมูล เงินเฟ้อ ของยูโรโซนในวันพุธจะแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านราคาในกลุ่มยุโรปยังคงแข็งแกร่ง CPI ของยูโรโซน พุ่งแตะ 10.6% ในเดือนตุลาคม มากกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรปถึง 5 เท่า ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 เบสิสพอยต์เป็น 1.5% ในการประชุมเมื่อเดือนตุลาคม ทำให้การปรับขึ้นทั้งหมดรวมเป็น 200 เบสิสพอยต์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นการกระชับโยบายที่เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ รายงานการประชุมประจำเดือนตุลาคมของ ECB เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายยืนกรานว่าจำเป็นต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อช่วยลดอัตราเงินเฟ้อการเดิมพันในตลาดมีความผันผวนระหว่างการเพิ่มขึ้น 50 หรือ 75 จุด เมื่อ ECB จะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 15 ธันวาคม
5. ตัวเลข PMIs ของจีน : ขณะที่จีนต้องต่อสู้กับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ ความหวังจึงริบหรี่สำหรับการกลับมาเปิดพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอีกครั้งในไตรมาสแรกของปี 2023 ข้อมูล PMI ในวันพุธจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป เจ้าหน้าที่ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการจำกัดไวรัสต่อไป แม้ว่าจะมี และผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น จีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า จะลดจำนวนเงินสดที่ธนาคารต้องกันไว้เป็นทุนสำรองเป็นครั้งที่สองในปีนี้ ซึ่งจะปลดปล่อยสภาพคล่องเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
ที่มา : Investing.com
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย
GO Markets
Pepperstone
XM
ATFX
FOREX.com
Markets.com
GO Markets
Pepperstone
XM
ATFX
FOREX.com
Markets.com
GO Markets
Pepperstone
XM
ATFX
FOREX.com
Markets.com
GO Markets
Pepperstone
XM
ATFX
FOREX.com
Markets.com