简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:"CoinMarketCap" เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Proof of Reserves ให้ความโปร่งใสกับนักเทรด
หลังเหตุการณ์ FTX ในช่วงก่อนหน้านี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทเป็นอย่างมาก รวมถึงความเชื่อมั่น และมูลค่าสินทรัพย์หลายพันล้านดอลลาร์ นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ถึงความน่าเชื่อถือของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในเรื่องการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้า จนมีการพูดคุยถึงแนวทางการแก้ไขโดยใช้ Proof of Reserves (POR) เป็นแนวทางที่จะแสดงตัวเลขจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทางศูนย์ซื้อขายนั้นถือครองอยู่
โดย CoinMarketCap ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์ม ให้ผู้ใช้ได้ตรวจสอบเงินสำรองและกระดานเทรดที่จะทำให้เห็นข้อมูล โดยใช้ Proof of Reserves (POR) ซึ่งจะคอยติดตามสภาพคล่องในแต่ละช่วงเวลาเพื่อความโปร่งใส
ได้ทวีตแจ้งว่า เครื่องมือติดตามนี้จะให้รายละเอียดสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท และที่อยู่กระเป๋าเงินทั้งหมด พร้อมด้วยยอดคงเหลือ, ราคาปัจจุบัน, และมูลค่าของกระเป๋าเงิน เครื่องมือติดตาม PoR จะอัปเดตข้อมูลทุก ๆ ห้านาที
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forexอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFXเพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุงแอปเดียวที่จบครบ เรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรีโหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย