简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:สายเทรดต้องอ่าน ! เปิดสูตรการเทรด Crypto สไตล์ลุงโฉลก
คิดถึงการเทรดคริปโต...ก็คงต้องคิดถึงหน้าลุงโฉลก! วันนี้เราขอเอาใจแฟนคลับลุงอีกครั้ง ด้วยการพาไปดูวิธีการเทรดคริปโตตามฉบับลุง ซึ่งวิธีการนี้ลุงก็ได้พูดเป็นร้อยครั้งแล้วว่าใจหลักสำคัญมันมีไม่กี่อย่าง รับรองว่าง่าย และเอาไปปรับใช้ได้แน่นอน!
“ลุงโฉลก” เจ้าของตำแหน่ง ‘ปรมาจารย์แห่งการลงทุนชื่อดังของไทย ขวัญใจมหาชน’ ได้ออกมาแชร์เรื่องนี้ไว้ในรายการ #ถามทันที ทางช่องถามอีกกับอิก TAM-EIG เช่นเคย โดยสรุปได้ว่าลุงแนะนำใจหลักสำคัญของการเทรดคริปโตให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้
1. ระบบเทรดต้องมั่นคง : เมื่อมีแฟน ๆ เข้ามาถามถึงการเลือกใช้ Timeframe ในการเทรด แบบไหนดีที่สุด?ลุงตอบไปทันทีว่าให้ใช้ Timeframe ไหนก็ได้ จะรายเดือน จะรายวัน รายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณจะเลือก แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อเลือกใช้ Timeframe 1 ชั่วโมง 4 ชั่วโมงนี่ เลือกแล้วห้ามเปลี่ยนนะ ใช้อันไหนก็ต้องอันนั้น ไม่ใช่อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนกลางคัน แน่นอนว่าการวางแผนระบบ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเทรดคริปโต
2. ซื้อเขียว ขายแดง : เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุณลุงย้ำเสมอ ว่าหลักการง่าย ๆ ของลุงคือ ซื้อตอนกราฟ(เริ่ม)เขียว คือกลับตัวเป็นขาขึ้นในช่วงแรกเท่านั้น จะไม่ซื้อกลางทาง เพราะจะเสี่ยงติดดอย! และขายตอนกราฟ(เริ่ม)แดง ถึงจะมีโอกาสทำกำไร ถ้าทำตามนี้ เข้าออกอย่างมีระบบ จะไม่มีการติดดอย ตกรถ ขายหมู ขาดทุนอะไรทั้งนั้น!
3. Money management : ลุงโฉลกพูดชัดเจนว่า Money management เป็นสิ่งสำคัญ ต่อให้ระบบเทรดดียังไง สินทรัพย์นั้นราคาขึ้นแค่ไหน แต่หากไม่มีความรู้เรื่องการจัดการเงินทุน ไม่รู้ว่าจะวางเงินยังไง ไม่รู้ว่าจะวางเงินเท่าไหร่ กำหนด Position Size ที่เหมาะสมไม่ได้ ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ดังคำพูดจากเซียนนักลงทุนหลายคนที่พูดตรงกันว่า “เราต้อง Money Management ให้เป็นนะ ไม่ว่าคุณจะอ่านกราฟเก่งแค่ไหน ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดระยะยาว”
ลุงกล่าวไว้ว่า “ไม่ได้บอกให้ทุกคนรีบมาซื้อนะ แต่อยากให้รีบศึกษาว่ามันคืออะไร เพราะบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงหากไม่ศึกษาให้ดี” ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการสรุปจากคำพูดของลุงโฉลกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษารายละเอียดด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้เล่าเรื่องราวของ Jordan Belfort หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Wolf of Wall Street” ผู้เริ่มต้นจากเซลล์แมนธรรมดาสู่การเป็นเจ้าพ่อแห่งโลกการเงิน ผ่านการก่อตั้งบริษัท Stratton Oakmont ซึ่งใช้กลยุทธ์หลอกลวงนักลงทุนด้วยแผน “Pump and Dump” ทำให้เขาสะสมทรัพย์สินมหาศาลอย่างรวดเร็ว บทความยังกล่าวถึงชีวิตสุดเหวี่ยงของเขาที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและฟุ่มเฟือย ก่อนจะถูก FBI จับกุมและต้องชดใช้ความเสียหายกว่า 110 ล้านดอลลาร์ หลังพ้นโทษ Belfortกลับมาในบทบาทนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แม้ยังเป็นที่ถกเถียงถึงแรงจูงใจที่แท้จริง บทความจบด้วยบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนควรระลึกไว้เกี่ยวกับความโลภ ความเชื่อมั่นเกินจริง และอันตรายของการลงทุนโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวต้นกำเนิดของกราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แพร่หลายในหมู่นักลงทุน โดยมีจุดเริ่มต้นในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจากพ่อค้าข้าวชื่อ โฮนมะ มูเนฮิสะ ผู้คิดค้นรูปแบบการบันทึกราคาผ่าน “แท่งเทียน” เพื่อสะท้อนอารมณ์ตลาดผ่านข้อมูลราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง นอกจากการอธิบายโครงสร้างของแท่งเทียนแล้ว บทความยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อด้านจิตวิทยาตลาดของโฮนมะ และการแพร่หลายของเครื่องมือนี้สู่โลกตะวันตกในยุค 1980s ผ่านงานเขียนของ Steve Nison สรุปได้ว่า การเข้าใจแท่งเทียนอย่างลึกซึ้งไม่เพียงช่วยในการวิเคราะห์กราฟ แต่ยังเปิดเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและเจตนาของผู้เล่นในตลาดอีกด้วย